ปัจจุบันความต้องการและความจำเป็นในการใช้ออกซิเจนในโรงพยาบาลมีมากขึ้น เนื่องจากอัตราการเติบโต ของจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาลมีแนวโน้มเพื่มมากเกินปกติ บจก. บางกอกอินเตอร์คอน ได้เล็ง เห็นถึงความสำคัญในการใช้ออกซิเจนในโรงพยาบาล ทั้งในพื้นที่ที่มีปัญหาในการจัดหาออกซิเจนและใน ท้องถิ่นทุรกันดารที่การขนส่งออกซิเจนชนิดบรรจุท่อเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตที่ การใช้ออกซิเจนจากถังอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ บริษัทฯ จึงมี ความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในการนำเสนอ เครื่องกำเนิดออกซิเจนที่ใช้เทคโนโลยี Pressure Swing Adsorption (PSA) ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ของแหล่ง ผลิต/จ่ายออกซิเจนที่มีประสิทธิภาพ ประหยัด สะดวก และปลอดภัย โดยไม่ต้องยุ่งยากและกังวลในการใช้ แรงงานขนถ่ายท่อออกซิเจนแรงดันสูงแบบเดิมอีกต่อไป
ความปลอดภัย ถือเป็นสิ่งแรกที่เราให้ความสำคัญ เราสามารถออกแบบและติดตั้งเครื่องกำเนิดออกซิเจนที่ มีกำลังเหมาะสมกับความต้องการของโรงพยาบาล พร้อมทั้งระบบแสดงผลแบบหน้าจอสัมผัส และระบบ สัญญาณเตือนอัตโนมัติที่จะเปลียนเป็นระบบพลังงานสำรองทันที่ที่เครื่องเกิดมีปัญหา
เครื่องกำเนิดออกซิเจนที่นำเสนอนี้เป็นผลิตภัณฑ์ของ Oxymat ประเทศเดนมาร์กในเครือสหภาพยุโรป ได้รับ มาตรฐานการผลิตจาก ISO 10083, MDD (Medical - Device Directive), PED (Pressure Equipment Directive) and CE โดยถูกออกแบบมาให้ใช้ได้อย่าง ทนทานมีประสิทธิภาพ สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 365 วัน พร้อมระบบเก็บออกซิเจนสำรองในถัง แก๊สเพื่อจ่ายเข้ากับระบบท่อแก๊สของ โรงพยาบาล ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีปริมาณออกซิเจนใช้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอ โดยไม่ต้องเสี่ยงหรือกังวล กับปัจจัยภายนอกเช่นการขนส่งที่ล่าช้า หรือ ราคาออกซิเจนในท้องตลาดที่มีการขึ้นลง
การลงทุนเพียงครั้งเดียวในการติดตั้งเครื่องกำเนิดออกซิเจน จะเป็นการลดต้นทุนการทำงานในระยะยาว
- เพื่อให้สามารถผลิตออกซิเจนได้อย่างต่อเนื่อง เครื่องกำเนิดออกซิเจนจึงมี 2 Column โดยแต่ละ Column จะบรรจุ Molecule Sieves ไว้ภายใน
- อากาศอัดแห้งถูกเป่าผ่านท่อซึ่งมีแรงดัน 5-7 bar โดยไนโตรเจนจะถูกดักไว้โดย Molecule Sieve ระหว่างเครื่องกำลังทำแรงดัน และออกซิเจนจะไหลผ่านไปสู่ถังเก็บและในขณะที่แรงดันใน Column ลดลง ปริมาณไนโตรเจนที่ดักจับไว้จะถูก Purge ออกไปสู่ภายนอก
- ในขณะที่เครื่องหนึ่งกำลังทำแรงดันให้ได้ตามเป้าหมาย อีกเครื่องหนึ่งจะไม่มีแรงดันใดๆ
- ส่วนหนึ่งของแก๊สที่ได้จะถูกส่งผ่านไปใช้ให้เกิดกระบวนการผลิต Molecule Sieve อีก โดยเครื่อง ทำงานสลับกันไปมาตลอดเวลาการผลิต
- สำหรับออกซิเจนใช้ Zeolite ชนิด 13X โดย Molecule Sieve จะใช้งานได้อย่างเต็มที่ในการผลิตฯ และมีอายุการใช้งานนานกว่า 40,000 ชั่วโมงหรือ 5 ปี
- ชุดเครื่องผลิตอากาศอัดแบบ Screw Air Compressor พร้อมเครื่องทำอากาศแห้ง ถังเก็บอากาศอัด และชุด Filter ดักกรองอากาศให้บริสุทธิ์ คุณภาพเทียบเท่ามาตรฐาน Medical Breathing Air
- ชุดเครื่องผลิตออกซิเจนจากการแยกตัวของอากาศ (Air Separation) ด้วยวิธี PSA (Pressure Swing Adsorption) ชนิด 2 Column ทำงานสลับกัน โดยการแยกไนโตรเจนออกจากอากาศอัดที่ ส่งผ่านเข้ามา
- อากาศส่วนที่แยกไนโตรเจนออกไปแล้วเกือบทั้งหมดคือออกซิเจน ซึ่งจะไหลผ่านไปสู่ถังเก็บ
- ชุดอุปกรณ์เพิ่มแรงดันออกซิเจน พร้อมอุปกรณ์อัดออกซิเจนแรงดันสูงลงสู่ถังสำหรับโรงพยาบาลเป็น อุปกรณ์เสริมต่างหาก
- Panel Display with electro galvanized sensor
- Touch Screen with zirconium sensor
- GSM modem for touch Screen
- Medical upgrade kit (Coalescing tower and bacterial filtration)
- Air Compressor
- Refrigeration/Adsorption Dryer
- Filter Package (Pre-filter & Micron Filter)
- Coal Tower (Activated Carbon Tower & Dust Filter)
- Air Tank
- PSA Generator
- Product Tank
- Bacteria/Sterile Filter & Active Coal Filter
- Oxygen pressure reduction Box
- Oxygen High Pressure Compressor
- Filling Ramp (Backup)
ตู้ควบคุมแบบ 3 Column สามารถทำงานได้เหมือน Panel Control II แต่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งาน ที่เพิ่มขึ้น โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ "Adaptive Cycle Time" หรือ การปรับตั้งรอบการทำงานได้ตามอัตราการไหล ของออกซิเจน ซึ่งหมายความว่า ถ้าอััตราการไหลยังอยู่ในช่วงที่กำหนด ระยะเวลากระบวนการทำงานของ ระบบก็จะเปลี่ยนไปเองตามอัตโนมัติ แต่ถ้าระบบที่จ่ายมาจากปั๊มป์ลมที่มีการควบคุมอยู่เป็นประจำ ผลลัพธ์ก็คือระบบจะปรับการทำงานเป็นแบบที่ใช้พลังงานน้อยลงแต่ผลิตค่าได้เท่าเดิม
ยามที่พลังงานเป็นสิ่งมีค่าและมลพิษจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์กลายเป็นปัญหาที่ทุกคนจับตามองระบบนี้จึงเป็นที่ต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน
เครื่องอัดอากาศจะแยกกากของเสียอันไม่พึงประสงค์และเป็นอันตรายออกมา เช่น ไอน้ำมันและฝุ่นละออง ที่ ควรต้องได้รับการดูแลและจัดการเป็นพิเศษ เนื่องจากถือว่าเป็นมลพิษที่ไม่ควรทิ้งในท่อปฏิกูลหรือบนพื้น น้ำ ที่ปนเปื้อนควรถูกเก็บไว้ในเครื่องแยกน้ำและน้ำมันเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสารปนเปื้อนเหล่านี้ได้รับการบำบัด อย่างถูกต้องตามข้อกำหนด น้ำที่บำบัดแล้วสามารถปล่อยลงท่อ และน้ำมันก็ควรถูกส่งต่อไปยังสถานจำกัด ขยะเคมีต่อไป การบำบัดน้ำที่มีสารปนเปื้อนก่อนทิ้งลงท่อ ถือเป็นการช่วยรักษาท่อน้ำจากการกัดกร่อนทาง เคมีอีกด้วย
เครื่องแยกน้ำและน้ำมันมี 2 แบบ คือ แบบที่ติดตั้งอยู่กับตัวเครื่องอัดและทำงานร่วมกัน ส่วนอีกแบบ คือ แบบ stand-alone ที่สามารถนำไปใช้งานได้ทุกที่
